Center Of Metaphysics & Ultimate Of Light

สถาบัน CMUL 5 D
Center Of Metaphysics and Ultimate Of Light
คือ ศูนย์กลางการเรียนรู้เกี่ยวกับวิทยาศาตร์ทางจิตทุกมิติ
ด้วยแนวความคิดที่เป็นอภิปรัชญาทางเลือกใหม่

หลักการสอนคือ การให้องค์ความรู้ ที่เป็นธรรมชาติแห่งปัญญาญาณที่ดีงามบริสุทธิ์ ด้วยกันปฏิบัติจริง ให้ผู้ที่เข้ามาเรียนรู้ได้ค้นพบตนเองในโลกภายในของตนเอง ให้มีพลังอำนาจจิตในตนเองเชื่อมั่นศรัทธาในตนเองและสามารถบรรลุเป้าหมายทุกอย่างในชีวิตที่คุณต้องการได้ด้วยตัวคุณเอง

หลักการปฏิบัติก็คือใช้แนวทางการทำสมาธิจินตนาการ เดินทางใน เพื่อเข้าสู่โลกภายใน ในระดับจิตใต้สำนึก CMUL มีเทคนิคและกลไกในการเข้าถึงพลังจิตของตนเองได้ พลังจิตใต้สำนึก รวมถึงการปรับสมดุล พลังกาย พลังใจพลังจิตให้สอดคล้องกัน โดยใช้ปัญญาในการพิจารณาสิ่งต่างๆด้วยการตื่นรู้ของตนเอง

เป็นกระบวนการ การทำงานของทุกส่วนทุกมิติแห่งกายใจจิตอย่างเป็นระบบ ซึ่งCMUL
ก็จะมีเทคนิคหลากหลายคลาสวิชาเพื่อให้ผู้ที่เรียนรู้ได้เข้ามาศึกษาเปิดเซ้นสัมผัสของคุณและรื้อฟื้นพลังจิตอำนาจจิตของคุณได้ด้วยตัวคุณเอง แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อความศรัทธาของคุณด้วย เพื่อนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับตัวคุณเองและผู้อื่นได้ในอนาคต

คุณจะได้รู้จักการบำบัดตนเอง และ ผู้อื่นได้ ในระดับพลังงาน สามารถอ่านพลังงานตนเอง เพื่อทราบถึงสภาวะจิตของตนเองสามารถที่จะบอกตนเองได้สอนตนเองเป็น นำไปสู่การพัฒนาทางจิตใจและ จิตวิญญาณ เมื่อโลกภายในเปลี่ยนสภาวะคลื่นความถี่ได้ โลกภายนอกของคุณก็จะเปลี่ยนตาม

เมื่อเรามีประสบการณ์การตื่นรู้ด้วยตนเอง เราก็จะสามารถ ชี้แนะแนวทางการดำรงชีวิตให้กับตนเองได้อย่างมีสติมีปัญญา และมีความสุข มีเป้าหมายในชีวิตที่ดีขึ้น มีเป้าหมายในการทำภารกิจที่แท้จริงของตนเองได้
CMUL เราก็ยังเปิดโอกาสให้กับนักเรียนผู้ที่เรียนรู้กับเรา ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้รู้ ผู้นำโดยการนำหลักการสอนของเรามาใช้เผยแพร่สอนบอกต่อ โดยมาเป็นคุณครู เป็นอาจารย์ให้กับทางเซ็นเตอร์CMULของเราได้อีกด้วย

หากคุณกำลังสงสัย ต้องการค้นหาคำตอบที่คุณไม่สามารถตอบตัวเองได้ ….!!

CMUL คือประตูมิติแห่งการเปิดขุมทรัพย์แห่งปัญญาในตัวคุณ ในยุคแห่งพลังงานใหม่ ที่คุณกำลังต้องการ

CMUL พร้อมที่จะเป็นประตูบานพิเศษนี้ ที่จะพาคุณไปค้นพบชีวิตอันมหัศจรรย์ของตัวคุณเอง

แล้วพบกันในคลาสเรียน

อาจารย์ TINA อาจารย์ Grace
ผู้ก่อตั้งCMUL 5D Center of metaphysics and ultimate of light

Tina

Tina Saelee
อาจารย์ทีน่า

อาจารย์ ทีน่า เกิดที่กรุงเทพฯ และในปี 1979 (พ.ศ.2522) เมื่อทีน่าอายุได้ 15 ปี ทีน่าและครอบครัวย้ายมาอยู่ที่ รัฐ California ในสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่นั้นมาอาจารย์ทีน่าก็อาศัยและเติบโตที่ Los Angeles จนถึงปัจจุบัน (2023) ซึ่งรวมเป็นเวลา 44 ปี

อาจารย์ทีน่า สนใจศึกษาเรื่องศาสนาและสิ่งที่อยู่เหนือการพิสูจน์ หรือเหนือการสัมผัสตั้งแต่อายุประมาณ 8-10 ขวบ จากอิทธิพลของคุณแม่และคุณอา เมื่ออาจารย์ อายุได้ 25 ปี ทีน่าได้พบร้านหนังสืออภิธรรมใน Los Angeles ร้านหนังสือร้านนี้มีหนังสือหลากหลายแนวจากหลายประเทศ ทั้งศาสนา, การระลึกชาติ, โหราศาสตร์, เลขศาสตร์, วิญญาณและทุกอย่างที่เมืองไทยในสมัยนั้นไม่มี ดังนั้นตลอดช่วงอายุนั้นจนอาจารย์อายุ 40 ปี อาจารย์ทีน่าได้ศึกษาหลายวิชาที่เกี่ยวกับ Metaphysics รวมถึงการสะกดจิตและการบำบัด โดยการสอนของทีน่าได้เริ่มขึ้นในปี 2010 (พ.ศ.2553) เป็นการสอนนักเรียนชาวอเมริกัน และเมื่อนักเรียนกลุ่มนี้สะสมประสบการณ์ได้มากพอ หลายคนผันตัวมาเป็นอาจารย์เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านนี้ต่อไป

ในปี 2022 (พ.ศ.2565) อาจารย์ทีน่าเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยโรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อ Covid-19 และเกือบเสียชีวิต จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ทีน่ารู้ตัวว่าต้องกลับมาทำในสิ่งที่ทีน่ารักอีกครั้ง อาจารย์ทีน่าเชื่อว่าอาจารย์ได้รับการบอกกล่าวจากเบื้องบนว่า ทีน่าต้องเริ่มสอนนักเรียนคนไทย ซึ่งสิ่งนี้ทำให้อาจารย์ประหลาดใจมาก เพราะตลอด 44 ปีที่ผ่านมานี้ ทีน่าอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาและไม่เคยมีเพื่อนคนไทยเลย ชีวิตของทีน่าคลุกคลีอยู่แต่กับเพื่อนและการใช้ชีวิตแบบชาวอเมริกัน แต่กลับมีเสียงภายในที่เน้นย้ำความรู้สึกว่า ทีน่าจะต้องสอนนักเรียนชาวไทย แล้วในปลายปี 2022 ทีน่าได้มีโอกาสกลับมาเมืองไทย และได้นัดเจออาจารย์เกรซซึ่งขณะนั้นได้บินกลับมาจากเยอรมันพอดี ทีน่ากับเกรซเคยรู้จักกันตั้งแต่ปี 2014 (พ.ศ.2557) เมื่อครั้งที่ทีน่ากลับมาเที่ยวเมืองไทยและได้พบเจอกันโดยบังเอิญ

ด้วยความสนิทสนมกัน ทีน่าจึงเล่าให้เกรซฟังว่า ทีน่าได้รับคำแนะนำจาก Higher Self ให้สอนในสิ่งที่ทีน่ารักกับนักเรียนชาวไทย แต่อาจารย์ทีน่าภาษาไทยไม่แตกฉาน และไม่คุ้นเคยกับภาษาไทยมากเท่าที่ควร จึงไม่แน่ใจว่าจะเริ่มสอนได้อย่างไร อาจารย์เกรซขณะนั้นได้เคยเปิดการสอนศาสตร์เหล่านี้กับนักเรียนไทยบ้างแล้วและมีความเข้าใจในระบบการสอนนักเรียนไทยเป็นอย่างดี เราจึงปรึกษาหารือและตัดสินใจเปิดบริษัทร่วมกันในที่สุด

Center of Metaphysics & Ultimate of Light in Thailand (CMUL) จึงได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อเดือน มกราคม 2023 (พ.ศ.2566) CMUL เป็นศูนย์พัฒนาจิตวิญญาณแห่งแรกในประเทศไทยที่เปิดสอนโดยนำจิตตปัญญาศาสตร์ (Spritual & Science) มาสู่นักเรียนชาวไทยโดยผู้หญิงสองคนจากวัฒนธรรมตะวันตกและวัฒนธรรมตะวันออกที่มีเป้าหมายเดียวกันคือการช่วยเหลือผู้คนให้ตื่นรู้ในมิติที่ 5 และ เข้าถึงตัวตนภายใน (Higher Self) หรือจิตใต้สำนึกของตนเอง

เส้นทางการศึกษาและภูมิหลังด้าน Metaphysics

อาจารย์ทีน่าจบการศึกษาด้วยเกียรติ Honor Roll จาก Hypnotherapy Motivational Institute (HMI) ที่ตั้งอยู่ที่ Tarzana ในรัฐ California และเริ่มฝึกงานในฐานะนักสะกดจิตบำบัด (Certified Clinical Hypotherapist) ใน Los Angeles ตั้งแต่ปี 2010 (พ.ศ.2553) และเมื่อเริ่มมีความชำนาญมากขึ้น อาจารย์ทีน่าได้มีโอกาสเป็นหนึ่งในนักเรียนของ Dolores Cannon ผู้เป็นอาจารย์สอนควอนตัมที่มีชื่อเสียงระดับโลกและ หลายปีให้หลังอาจารย์ทีน่าก็กลายเป็นนักจิตบำบัดด้วยรักษาด้วยควอนตัมเทคนิค Quantum Healing Hypnosis Technique (QHHT)

นอกจาก Dolores Cannon แล้ว, ทีน่ายังได้เรียนกับครูที่มีชื่อเสียงทางด้าน Metaphysics อีกหลายท่านในหลายปีที่ผ่านมา เช่น Brian Weiss, Lisa Williams, John Edward, Debra Katz, และ Pam Coronado

ตลอดระยะเวลา 13 ปีที่อาจารย์ทีน่าเริ่มสอนศาสตร์นี้ ทีน่าสะกดจิตคนมาแล้วมากกว่า 1,000 คน ปัจจุบันทีน่าใช้เทคนิคส่วนตัวซึ่งจากประสบการณ์พบว่าเป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุดกับลูกค้าและนักเรียนส่วนใหญ่ของอาจารย์

ทีน่าเป็น Life & Soul Coach, Certified Clinical Hypnotherapist, QHHT Practitioner โดยได้รับการสอนโดยตรงจาก Dolores Cannon ในปี 2011), Body Work Trigger Point Therapist, Metaphysical & Esoteric Teacher, และ Awareness & Consciousness Teacher

ปัจจุบัน อาจารย์ทีน่าสอนนักเรียนจากทั่วโลกผ่าน Video Conference ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย โดยใช้ Zoom การฝึกสอนของทีน่าเน้นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียน ทีน่าโฟกัสกับการสร้างความเข้าใจ และ สร้างความตระหนักรู้ในตนเองเพื่อหาคำตอบและไขข้อข้องใจต่างๆในชีวิต โดยใช้การสะกดจิตบำบัดรักษา และ Shadow Work (Old Programming) ผ่านการรำลึกความทรงจำในอดีตชาติ และประสบการณ์ในมิติอื่นๆ โฟกัสหรือความมุ่งมั่นของทีน่าคือการช่วยเหลือผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงตนเองไปในทางที่ดีกว่าโดยใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่และมีความสุขด้วยการพัฒนาสัมผัสที่หก และฟื้นฟูสุขภาพจิต สุขภาพกาย และจิตวิญญาณ (6th sense, Intuition by connecting to Higher self, Angels & Akashic masters)

จากเทคนิคการสอนและการให้คำปรึกษาในฐานะอาจารย์ ทีน่ามั่นใจว่าคุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตทางจิตวิญญาณของคุณ แล้วคุณจะมีความสุขมากขึ้นกับมุมมอง และ ชีวิตที่เปลี่ยนไปในเชิงบวกที่กำลังรอให้คุณเข้ามาค้นพบพร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ๆไปพร้อมๆกัน

GRACE

Kanyanutt Pongwarasin
กัญญาณัฏฐ์ พงษ์วราสิน

เกิดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน สถานที่เกิดจังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย มีพี่ชาย 1 คนและน้องชาย 1 คน อาจารย์เกรซเป็นลูกคนกลาง ครอบครัวฐานะปานกลางคุณพ่อและคุณแม่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ด้วยความที่ท่านทั้งสองต้องทำงาน ไม่มีเวลาดูแลลูก จึงได้ส่งให้อาจารย์ไปอยู่กับคุณปู่คุณย่าที่ต่างจังหวัด

ช่วงที่อาจารย์เกรซอยู่กับคุณปู่คุณย่า ที่จังหวัดนครราชสีมา ตอนเด็กเด็กก็เรียนหนังสือไปด้วย จาก ป1-ป3 อายุ5ขวบ ถึง7ขวบ เมื่อจบ ป.3
อาจาย์ก็เข้ามาเรียน ป.4 ในกรุงเทพมหานคร จนจบมหาวิทยาลัย เรียนจบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์อาหารและโภชนาการที่มหาวิทยาลัย เทคโนโลยี ราชมงคล

อาจารย์เกรซเริ่มสนใจเรื่องของพลังจิตเมตาฟิสิกส์ เรื่องลี้ลับ มนุษย์ต่างดาว ต่างมิติ และการกลับนิพพาน มาตั้งแต่เด็ก ด้วยอาจารย์เป็นคนไทยและนับถือศาสนาพุทธจึงได้เริ่มเรียน โดยการปฏิบัติตามหลักของพระพุทธศาสนา มีการปฎิบัติธรรม ทำสมาธิศึกษาธรรมะ ฝึกจิต ตามทางสายวัดป่า ของหลวงปู่หลวงตา อ่านหนังสือธรรมะ ฟังธรรมะ และมีโอกาสก็จะไปปฏิบัติบวชชีพราหมณ์ถือศีลอุโบสถ อยู่เสมอ เรียนรู้หลักการต่างๆในอีกทุกศาสนา เข้าถึง เข้าใจธรรมชาติแห่งปัญญาแท้จริง ตอนนี้จึงรักทุกศาสนา เป็นต้นมา

อีกด้านของชีวิตก็ใช้ชีวิตทางโลกที่ สุขบ้าง ทุกข์บ้าง สนุกสนาน ใฝ่หาความรู้ทำงาน สร้างฐานะด้วยตนเองตลอดมา

จนวันหนึ่งปี 2014 อาจารย์เกรซก็ได้มาพบกับอาจารย์ทีน่าประมาณเดือนพฤศจิกายน ที่เมืองไทย อาจารย์เกรซได้ถูกอาจารย์ทีน่าสะกดจิตส่วนตัวเป็นครั้งแรก จนตื่นรู้จากภายในได้ค้นพบ HS Higher Self ของตนเองและก็ได้เรียนวิชา Metaphysics ฟิสิกส์ทางกาย ใจ จิต ที่หลากหลายวิชาทางฝั่งอเมริกา จากอาจารย์ทีน่าได้ประมาณ 2 เดือนกว่าจนอาจารย์ทีน่ากลับอเมริกาไป

หลังจากนั้นด้วยความที่อาจารย์เกรซมีความรักความสนใจในด้านของพลังงานและพลังจิต พลังจิตใต้สำนึกจึงได้เรียนรู้วิชาการสะกดจิตอย่างรวดเร็วและนำวิชาต่างๆนั้น มาผสมผสานกับการปฎิบัติธรรมที่ผ่านมาและสร้างขึ้นเป็นหลักสูตรของตนเอง

เริ่มมาทำการสะกดจิตทั้งตนเองและผู้อื่น จนค้นพบการตื่นรู้และประสบการณ์ทางจิตในระดับต่างๆ ตลอดระยะเวลาสองปีได้มีการดาวน์โหลดข้อมูลทางจิตด้วยตนเอง จนเกิดความมั่นใจจึงได้รับการสื่อสารจาก HS ว่าให้เริ่มมาทำหน้าที่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ปลุกให้ผู้อื่นตื่นรู้ได้แล้วจากประสบการณ์ตรงของตนเอง

จนเมื่อในปี 2016 วันที่ 11 เดือน 11 อาจารย์เกรซได้แจ้งกับ อาจารย์Tina ว่า อาจารย์เกรซ พร้อมแล้วที่จะมาทำหน้าที่เป็นนักสะกดจิตสมดุลย์พลังงานเต็มตัวอาจารย์ทีน่า จึงมอบใบประกาศษณียบัตรของการเป็น Hypnotherapist ในหลักสูตรการสอนของอาจารย์ Tina เองเพื่อใช้ในการประกอบอาชีพทางโลกควบคู่กันไปในทางของพลังงาน

ปี 2016 ถึงปี 2022 ในเส้นทางการทำหน้าที่สายจิตวิญญาณนี้ ผลงานที่โดดเด่นของอาจารย์เกรซ ได้ทำหน้าที่ ต่างๆดังนี้

เป็นนักสะกดจิตส่วนตัวและส่วนรวม

เป็นไลฟ์โค้ช

เป็นผู้ชี้แนะนำทางการไกด์สมาธิ

เป็นนักอ่านพลังงานด้วยไพ่

นักอ่านพลังงานด้วยหินและคริสตัล

นักบำบัดปรับจักระสมดุลย์พลังงานทางไกล

เป็นผู้รับสาร์ณการดาวน์โหลดข้อมูล เป็นนักเขียนบทความ

เป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจโดยผ่านสื่อทาง Facebook ชื่อเพจว่า Ultimate Of Light และสร้าง YouTube ชื่อช่อง TheGraceChannel

ภายใน6ปีที่ผ่านมานี้ อาจารย์เกรซได้สะกดจิตผู้คนส่วนตัวผ่านทางVDO Call Online ประมาณ 600 คนขึ้นไป ซึ่งได้รับประสบการณ์ตรงจากการพาผู้อื่นตื่นรู้ โดยทำให้เขามีชีวิตการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น และพบกับความมหัศจรรย์ ปาฏิหาริย์ต่างๆมากมาย จน อาจารย์เกรซได้สร้างคอร์ส Reborn To Oneness ขึ้นมาเพื่อใช้ในการสอน ผู้คนจึงได้รู้จักอาจารย์เกรซผ่านทางการสอน และการให้ความรู้หลัก ในหลายช่องทาง

เมื่อมาถึงปลายปี 2022 เดือนพฤศจิกายน อาจารย์เกรซได้มาพบกับอาจารย์ทีน่าอีกครั้ง ด้วยความที่เรามีอุดมการณ์ และภารกิจเดียวกันและอยากช่วยคนไทย เราจึงเริ่มต้นสร้างสถาบัน Center Of Metaphysics & Ultimate Of Light ขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์แห่งจิตในประเทศไทย(CMUL 5 D)

เราต้องการสร้างครูสร้างอาจารย์สร้างโค้ช เพื่อให้มีความรู้ในศาสตร์วิชาวิทยาศาสตร์ทางจิตเหล่านี้ให้มากขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นให้มากขึ้นด้วยเช่นกัน ด้วยอุดมการณ์ ที่ว่า

“การให้ ช่วยสร้างผู้ให้ อีกมากมาย”